การมุ่งมั่นตั้งใจทำงานถือเป็นสิ่งดีที่ทุกคนควรทำ แต่ถ้าทำแล้วเกิดความเครียดจนเกินไปก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร และเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น...
การมุ่งมั่นตั้งใจทำงานถือเป็นสิ่งดีที่ทุกคนควรทำ แต่ถ้าทำแล้วเกิดความเครียดจนเกินไปก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร และเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น นอกจากจะไม่ได้งานแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย ความสุขลดน้อยลง ฉะนั้นการผ่อนคลายความเครียดเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะทำให้สุขภาพจิตดีและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าวิธีคลายเครียดทำได้อย่างไรบ้างถ้าพร้อมแล้วไปปฏิบัติกันเลย
1. การปรับเปลี่ยนความคิด ความเครียดส่วนหนึ่งมาจากความคิดของคนเรานั่นเอง ถ้ารู้สึกว่าตัวเองคิดมากคิดสับสนวนเวียนหาทางออกไม่ได้ ควรหยุดคิดสักพักเปลี่ยนอิริยาบถไปทำอย่างอื่นก่อน เมื่อรู้สึกดีขึ้นค่อยกลับมาคิดใหม่ เช่น คิดอย่างใช้เหตุผล คิดหลายๆ แง่มุม ลองคิดอย่างที่คนอื่นเขาคิด คิดเรื่องดีๆ และคิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าเอาแต่หมกมุ่นกับตัวเองมากเกินไป การคิดแบบใหม่ๆ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นและหายเครียดได้
2. การสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ ทำได้โดยการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอว่า ‘เราต้องทำได้’ ต้องเข้าใจชีวิตให้ถ่องแท้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรยั่งยืนจะได้ไม่ยึดติดกับลาภ ยศสรรเสริญ และต้องใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด ไม่ติดอยู่กับอดีตหรือวิตกกังวลกับอนาคตให้มากเกินไป อย่าลืมที่จะสร้างความอบอุ่นในครอบครัวจะเป็นกำลังใจช่วยให้เราต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคได้อย่างดีที่สุด
3.การแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสม ควรฝึกควบคุมอารมณ์ คิดก่อนทำ และทำอย่างเหมาะสมจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ และไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมา เมื่ออารมณ์ดี ควรยิ้มแย้มทักทาย พูดเล่น ฮัมเพลงจะทำให้ผู้ใกล้ชิดรู้สึกดีตามไปด้วย เมื่ออารมณ์ไม่ดี อย่าเพิ่งพูดหรือทำอะไรลงไป ให้หลบออกจากสถานการณ์สักพัก หายใจเข้าออกช้าๆ สัก 4-5 ครั้ง หรือนับ 1-10 ในใจ พยายามคิดถึงผลเสียที่จะเกิดตามมา จะทำให้มีสติและแสดงออกได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นดีขึ้นและเครียดน้อยลง
4.การพักผ่อนหย่อนใจ หลังเลิกงานแล้วควรจะได้พักผ่อนบ้างเพื่อผ่อนคลายจิตใจ ทำให้พร้อมที่จะกลับไปทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้งหนึ่ง กิจกรรมการพักก็มีให้เลือกอยู่มากมาย ควรเลือกที่ตรงข้ามกับงานประจำ เช่นงานประจำต้องนั่งโต๊ะทั้งวัน ยามว่างควรทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย หรือถ้างานประจำต้องให้บริการผู้อื่น ยามว่างควรไปให้ผู้อื่นบริการบ้าง เพื่อให้ชีวิตสมดุลและผ่อนคลาย
5.การบริหารเวลา ควรทบทวนดูว่าในแต่ละวันได้ใช้เวลาไปกับเรื่องใดบ้าง เสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจัดแบ่งเวลาเสียใหม่ รีบทำงานสำคัญและเร่งด่วนให้เสร็จก่อน แล้วจึงทำงานอื่นภายหลัง ลดการคุยเล่น เดินไปเดินมา กินขนม ฯลฯ ให้น้อยลงก็จะประหยัดเวลาและได้งานมากขึ้น หากบริหารเวลาอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเวลาเหลือเพียงพอสำหรับการพักผ่อนส่วนตัว และมีเวลาให้ครอบครัวอย่างเพียงพอ ทำให้ความเครียดน้อยลง
6.การพูดอย่างสร้างสรรค์ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ควรหมั่นพูดคำว่าสวัสดี, ไม่เป็นไร, ขอโทษ และขอบคุณให้ติดปาก เพราะจะแสดงถึงความมีมารยาท มีน้ำใจ ให้อภัย และรู้คุณค่าการกระทำของผู้อื่น เป็นเสน่ห์แก่ผู้พูดและผู้ฟังก็สบายใจด้วย ควรหมั่นพูดชมเชย ให้กำลังใจ ไต่ถามทุกข์สุข ประสานความเข้าใจกัน บางเรื่องไม่ควรพูดก็อย่าพูดจะช่วยตัดปัญหาและลดความเครียดลงได้มาก
7.การแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี ถ้าแก้ปัญหาอย่างใช้อารมณ์ไม่มีเหตุผล จะทำให้เครียดมาก เพราะบางทีปัญหาเก่าก็ยังแก้ไม่ได้แต่กลับสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก ควรเริ่มต้นแก้ปัญหาที่สาเหตุแล้วแก้ตรงนั้น ถ้าตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาก็ต้องแก้ไขที่ตัวเราด้วย ถ้าคิดแก้ปัญหาเองไม่ได้ ก็ไม่ควรอายหรือกลัวว่าจะเสียหน้าที่จะปรึกษาหารือและขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เมื่อรู้วิธีแก้ไขปัญหาแล้วก็ควรลงมือทำทันที เมื่อแก้ปัญหาได้สำเร็จก็จะหายเครียดไปเอง
ที่มาข้อมูล : นิตยสารเปรียว และ http://lifestyle.th.msn.com/health/tips/7-เทคนิคคลายเครียดจากการทำงาน